เล่าสู่กันฟัง “พาพระวิทยากรกลับบ้าน”

783 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เล่าสู่กันฟัง “พาพระวิทยากรกลับบ้าน”
โดย: กิตติเมธี

 


Ep.1

หลังจากจบโครงการพระวิทยากรกระบวนธรรม ภาคเหนือ รุ่น ๑ จ.น่าน ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑ รวม ๗ วัน ๖ คืน โดยคณะสงฆ์จังหวัดน่านรวมกับสถาบันพัฒนาพระวิทยากร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ วัดสระเกศ

เราเดินทางกลับด้วยรถตู้คันเดิมที่เคยใช้เดินทางมาระยะทางกว่า ๖ ร้อยกว่ากิโลถ้าเดินทางอย่างต่อเนื่องก็ร่วม ๙ ชั่วโมง และมีพระวิทยากรอีกส่วนก็กลับรถทัวร์ที่ท่านยังจดจำตอนขามาได้ว่า "ถ้ากลับด้วยรถทัวร์แบบนี้กว่าจะฟื้นตัวก็เกือบ ๓-๔ วัน"

แต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงกีฬาโดยจังหวัดน่านเป็นผู้จัด เราจึงเลือกไม่ได้ เพราะรถทัวร์ที่ดีหน่อยจะถูกจองหมดก่อนนานแล้ว

และที่สำคัญที่เราเลือกจะเดินทางกันในรูปแบบนี้ทั้งที่สามารถเลือกทางที่สบายกว่าก็ได้ ไม่ใช่อะไรอย่างอื่นนอกจากเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แม้จะเบียดเสียดกัน ไม่สะดวกสบายนักสำหรับพระนักทำงาน แต่เป้าหมายของผู้เป็นพระวิทยากรที่เรามักจะเตือนตัวเองและผู้เข้าอบรมเสมอคือ “เพื่อพระพุทธศาสนา” เป็นหลัก ไม่ใช่เพื่อความสุขสบายของตน จึง ”ต้องทำตัวง่าย” คือ เดินทางง่าย อยู่ง่าย ฉันง่าย เข้ากับคนง่าย วางตัวเรียบง่าย แต่ต้องไม่มักง่าย หรือไปไหนต้องเป็นเสมือนผึ้งที่ดอมดมดอกไม้ แต่ไม่ทำให้ดอกไม้เสียหาย


หลังจากเราออกเดินทางมาส่งพระวิทยากรส่วนหนึ่งที่กลับด้วยรถทัวร์แล้วแวะชมเมืองน่านมีวัดภูมินทร์ เป็นต้น เราก็ออกเดินทางต่อโดยมีเป้าหมายคือกำแพงเพชร เพื่อทำอะไรสำคัญบางอย่างคือ “ส่งพระวิทยากรกลับบ้าน” (ภาคใต้มีโครงการนำชาวพุทธกลับบ้าน เลยถือโอกาสนำชื่อมาอ้างถึง) โดยไม่มีอะไรมาก แค่อยากรู้จักโยมพ่อโยมแม่ที่ถือว่า “เป็นนักเสียสละคนสำคัญ” เพราะคงไม่มีพ่อแม่คนไหนที่จะยอมให้ลูกชายที่บางครอบครัวก็มีคนเดียว (อย่างพระวิทยากรหลายรูปที่เรากำลังจะไปส่งท่านกลับบ้าน) ให้บวชได้ และยิ่งบวชนาน ผู้เป็นแม่ยิ่งทำใจยากสุด

(ถ้าใครอ่านธรรมบทหรือพระไตรปิฎกจะรู้ว่าการบวชลูกชายวัยยังเด็กหรือหนุ่มนั้นถือเป็นฝันร้ายของพ่อแม่ที่ต้องการสืบทอดวงศ์ตระกูล มอบทรัพย์มรดก และดูแลกันในยามแก่เฒ่า จนถึงขนาดพระเจ้าสุทโธทนะขอให้พระพุทธองค์บัญญัติว่าใครจะบวชต้องให้พ่อแม่อนุญาตก่อน แต่ก็มีลูกๆ หลายคนที่ไม่ยอมให้ลูกบวช ลูกบางคนไม่ยอมกินข้าวปลา พ่อแม่เห็นภาพนั้นทนไม่ไหวจึงยอม แม้อย่างนั้นก็ยังคงมีหวังว่าลูกจะสึกออกมา ฟังถึงตรงนี้ก็เข้าใจหัวอกผู้เป็นแม่ได้เป็นอย่างดี)

…เมื่อเราทำหน้าที่เป็นพระวิทยากร แม้จะทำหน้าที่อื่นได้สมบูรณ์ ได้พัฒนา และช่วยเหลือเยียวยาคนอื่นมากมายอย่างไร แต่จะไม่สมบูรณ์เลย ถ้าเราลืมพ่อแม่และครอบครัว…

“ที่สำคัญเวลาพระวิทยากรมาเยี่ยมโยมพ่อโยมแม่ อย่ามาคนเดียว ต้องมาหลายๆ คน” “ทำไมนะหรือ” เพราะแม่มักจะน้อยใจว่า “พระลูกชายลืมแม่แล้วละมั้ง ถึงไม่เคยมาเยี่ยมเลย”

ถ้ามีพระรูปอื่นมาด้วยจะได้ช่วยบอกท่านได้ว่า พระลูกชายไปทำงานอะไรมา ช่วยบอก ช่วยเล่า ท่านจะฟังอย่างเข้าใจในความเสียสละของพระลูกชายและผู้เป็นพ่อเป็นแม่ที่ให้พระท่านได้ทำหน้าที่เพื่อพระพุทธศาสนา

และเท่าที่ประสบมาพอพ่อแม่ได้ฟัง มีทั้งรอยยิ้มและน้ำตากลับมาเสมอ

 

Ep.2

เราเดินทางเกือบๆ ๕ โมงเย็น พอออกมาไม่นานรถทั้งคันก็เงียบเสียงคุยกันลง เนื่องจากความเพลียตลอดระยะเวลาอบรม ๗ วัน ๖ คืน เหลือเพียงเสียงเครื่องยนต์ของรถตู้ที่ทำงานอย่างเต็มที่ รถคันนี้แม้จะไม่ใหม่นัก แต่มีคุณค่าทางจิตใจต่อเราอย่างมาก เพราะเป็นรถที่เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสณมหาเถระ) เคยใช้มา เราในฐานะที่สืบทอดปณิธานการทำงานของท่าน และได้ใช้รถที่ท่านเคยใช้จึงรู้สึกซาบซึ้งถึงคุณค่านี้ในใจลึกๆ เสมอมา

รถวิ่งตามแผนที่ในระบบกูเกิล อันเป็นระบบนำทางเดียวที่เราเชื่อได้ตอนนี้ ตั้งจากน่านไปที่กำแพงเพชร รถวิ่งตามกูเกิลไปที่ไหนสักแห่งบอกไม่ถูก ข้างนอกมืดสนิท น่าจะขึ้นเขามา ด้านนอกมืดสนิท แสงไฟจากรถช่วยนำทาง เห็นทิวเขาไกลๆ ตัดกับฟ้าที่พอให้เห็นเป็นเงาๆ บางช่วยเห็นเป็นเงาต้นไม้ที่ถูกลมพัดเหมือนใครโบกมือทักทายตลอดเวลา

ตอนที่วิ่งนั้นสัญญาณมือถือก็หาย เราอาศัยทางนำเราไป ทางแต่ละช่วงขึ้นบ้าง ลงบ้าง มีทางโค้งเป็นระยะ ไม่มีรถวิ่งสวนทางเลยสักคันทั้งที่ยังหัวค่ำ จนให้เกิดสงสัยว่า เราอยู่ที่ไหน ทำไมไม่มีรถ ไม่มีสัญญาณมือถือ แต่คิดได้ไม่นานก็เห็นแสงไฟจากป้อมยามด้านหน้าจึงเป็นอันให้รู้กันว่าเราหลุดออกจากความเงียบสงบ สักพักสัญญาณมือถือก็กลับมา แผนที่ก็กลับมาอีกครั้ง เราวิ่งตามแผนที่มา ทางนี้ไม่มีใครเคยมาสักครั้ง เราต้องเชื่อกูเกิล แต่ดูเหมือนกูเกิลจะพาเราวิ่งเข้าไปในทางที่เล็กลงทุกที ก่อนที่จะพบว่าทางข้างหน้ามีแต่หญ้าปกคลุม

โชเฟอร์หยุดรถมองรำพึงขึ้น “ข้างหน้าไม่น่าไปได้ต่อ” “แต่กูเกิลบอกทางนี้นะ ลองไปดูไหม” ใครสักคนพูดจนเรียกคนให้มาช่วยกันตัดสิน ขณะที่ทุกคนกำลังคิดช่วยกัน ก็มีรถวิ่งตามเรามาข้างหลัง เขาจอดลงมาดูก่อนจะหันหลังกลับขึ้นรถแล้วถอยกลับโดยไม่สนใจถามไถ่คันของเราสักนิด

...เขาคงตามเรามา พอเห็นว่าเราไปไม่ได้ และไม่น่าจะไปได้ จึงหันหลังกลับทันที เขาให้แง่คิดเล็กๆ กับเราว่า อย่าตามคนที่หลงทาง ถ้ารู้ตัวให้รีบสละหนีเสีย ก่อนความเสียหายจะตามมา... เราตัดสินใจว่าจะหันหลังกลับ เพื่อหาทางใหม่ที่ดีกว่า และเหมือนกูเกิลจะรู้ใจเราก็เตรียมทางใหม่ไว้ให้ทันที


Ep.3

เราเดินทางต่อไปจนถึงที่พัก พอรุ่งเช้าก็ไปต่อ “แม่กับยายคงดีใจมากที่ลูกพระหายไป ๒ ปีกลับมาเยี่ยมบ้าน” ใครสักคนเอ่ยขึ้น ที่สำคัญไม่ได้ไปคนเดียวแต่มาพร้อมพระวิทยากรอีกหลายรูป เราแวะหาของไปเยี่ยมโยมด้วย เจอผลไม้จำนวนหนึ่ง ไม่รู้ว่าโยมจะชอบไหม แต่อย่างน้อยเราก็ชอบ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าพระวิทยากรกลับบ้านพร้อมเพื่อนพระด้วยกัน โยมแม่มักจะไม่รับประทานอะไร เพราะมีความสุข ปีติกับการมาเยี่ยม และที่สำคัญโยมแม่ของพระวิทยากรบางรูปถึงขนาดไม่หลับนอนกันเลย เพื่อตั้งตารอพระลูกชาย

เราเดินทางมาถึงเกือบ ๑๑ โมงเช้า เห็นโยม ๓ ท่านกำลังเตรียมอาหารด้วยสีหน้ายิ้มให้เห็นตลอด เวลาช่วงทักทายผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนเหมือนว่าเราเป็นญาติที่รู้จักกันมานานกลับมาเจอกันอีกครั้ง

บ้านนี้มีทั้งหมด ๔ คน มีพ่อและแม่ มีพระเป็นลูกชายคนเดียวและมีน้องสาว บรรยากาศรอบตัวบ้านร่มรื่น มีลมเย็นตลอดเวลา มีต้นไม้ขึ้นทั่วบ้าน “ฝนเพิ่งตกไปเมื่อวาน” โยมเล่าให้ฟังว่าพระมาพร้อมฝน ตกไม่มาก แต่พอให้เย็นสบาย ปกติแม่จะอยู่คนเดียว จะมียายมาอยู่เป็นเพื่อน ยายบอกว่า “ตาจากไปนานแล้ว” “ยายไม่คิดถึงตาหรือ” “คิดถึงก็ทำบุญให้”

ถามไถ่พอสมควรจึงสวดมนต์และให้โยมได้กรวดน้ำ พระที่มาได้กล่าวให้กำลังใจโยม

เราใช้คำพูดไม่มาก ถ้าสังเกตจะพบคำว่า “โยมยาย” “โยมพ่อ” “โยมแม่” ถูกเรียกอยู่ตลอดเวลา เป็นคำที่เราไม่ต้องพยายามมาก เพราะตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้านแห่งนี้ก็แหมือนกับเราเดินเข้ามาในร่มเงาพระพุทธศาสนา ที่ทุกคนล้วนเป็นญาติกัน เรามีพ่อ แม่ยาย พี่น้อง ยาย ตา เต็มไปหมด เราเรียกโยมทุกคนที่ดูแลพระเณรไม่ได้ต่างจากลูกจากหลานแบบนั้น จนไม่มีใครแปลกหน้าสำหรับเราอีกแล้ว

....ยิ่งมาเจอครอบครัวของพระวิทยากรที่ทำงานเพื่อพระพุทธศาสนาร่วมกัน ก็ไม่ยากเลยที่จะเอ่ยเรียกกันแบบญาติ.. เราออกมาและเดินทางต่อปล่อยให้ความทรงจำได้เก็บเรื่องราวดีๆ อีกครั้ง เมื่อได้นึกถึงการเดินทางมากำแพงเพชรอีกครั้ง

และฝากอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน “ใครรู้บ้าง เฉาก๋วยชากังลาวอยู่แห่งไหน” มาทั้งทีแต่หาไม่เจอเลย ว่าจะเอาไปฝากที่วัดบ้าง ห่างวัดไปนาน มีอะไรติดมือกลับมาบ้าง...ก็น่าจะดี...


โครงการพระวิทยากรกระบวนธรรม ภาคเหนือ รุ่นที่ ๑ จังหวัดน่าน

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้