2003 จำนวนผู้เข้าชม |
คณะสงฆ์วัดโพธิ์ฯ พร้อมภาครัฐและภาคเอกชน เข้าเฝ้าฯ ถวายคัมภีร์พระมาลัย อักษรขอม (บาลี-ไทยโบราณ) ที่ปริวรรตเสร็จสมบูรณ์ แด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส พระประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก องค์ที่ ๒๖๖
เผย "พระสันตะปาปา” มีสมณพระประสงค์ ปริวรรตคัมภีร์ เพื่อจัดนิทรรศการคัมภีร์ โบราณทั่วโลก
เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม เวลา ๐๙.๐๐ น. ตามเวลาท้องถิ่นนครรัฐวาติกัน สาธารณรัฐอิตาลี นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เข้าเฝ้าฯ ถวายคัมภีร์ พระมาลัยอักษรขอม (บาลี-ไทยโบราณ) ที่ปริวรรต (แปล) แล้วเสร็จแด่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังนซิส พระประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกองค์ที่ ๒๖๖ อย่างเป็นทางการ โดยมีพระราชรัตนสุนทร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ไวยาวัจกร วัดพระเชตุพนวิมลฯ พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดพระเชตุพนฯ คณะสงฆ์ผู้ปริวรรตคัมภีร์ กระทรวงการต่างประเทศ อธิบดีกรมการศาสนา คณะสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย กรรมาธิการแห่งสภาประมุขฯ การเสวนาและความสัมพันธ์ระหว่างศาสนาต่างๆ และผู้เกี่ยวข้องภารรัฐและเอกชนร่วมพิธีถวายคัมภีร์ ณ นครรัฐวาติกัน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่า เนื่องด้วยเมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ปี ๒๕๕๙ ที่ผ่านมามงซินญอร์ ดร.วิษณุ ธัญญอนันต์ คณะกรรมการรองเลขาธิการสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทยและผู้ประสานงานกับนครรัฐวาติกัน พร้อมคณะ นำความตามสมณพระประสงค์ในสมเด็จพระสันตปาปาฟรังซิส องค์ที่ ๒๖๖ ที่ประสงค์จะจัดแสดงคัมภีร์ โบราณ ที่ได้รับถวายจากบุคคลสำคัญๆ ทั่วโลก ที่ได้ถวายแด่องค์สมเด็จพระสันตะปาปาทุกๆ พระองค์ที่ผ่านมา เพื่อไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์แห่งนครรัฐวาติกัน โดยพบว่าบรรดาคัมภีร์ดังกล่าวมี คัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาเล่มหนึ่ง บันทึกด้วยอักษรขอมโบราณ ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์แห่งนครรัฐวาติกัน ไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถอ่าน หรือปริวรรตคัมภีร์ เล่มดังกล่าวได้
ดังนั้น ทางพิพิธภัณฑ์แห่งนครรัฐวาติกัน จึงมอบหมายให้มงซินญอร์ ดร.วิษณุ ธัญญอนันต์และคณะเข้าพบพระเทพวีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ ปรึกษาหารือและขอความร่วมมือในการปริวรรตคัมภีร์ดังกล่าว ซึ่งพระเทพวีราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ จึงจัดหาผู้เชี่ยวชาญในการปริวรรตคัมภีร์ฉบับนี้ เพื่อถวายแด่องค์สมเด็จพระสันตะปาปา ตามสมณประสงค์และเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างคริสตจักรกับพระพุทธศาสนาในเบื้องต้นพิพิธภัณฑ์แห่งนครรัฐวาติกันทราบว่าคัมภีร์ดังกล่าวเป็นคัมภีร์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗) ถวายพระสันตะปาปาปิโอที่ ๑๑ เมื่อครั้งเสด็จประพาสยุโรป ในปีค.ศ. ๑๙๓๔ ซึ่งเป็นคัมภีร์เขียนด้วยอั กษรขอม (บาลี-ไทยโบราณ) ในยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น เป็นหนังสือสมุดไทยขาว (สมุดข่อยสีขาว) มีความกว้าง ๑๓ เซนติเมตร ยาว ๖๖ เซนติเมตร มีเนื้อหา ๖ ตอน นับจำนวนหน้าสมุดรวมทั้งหมด ๑๘๖ หน้า ด้านในมีภาพวาดประกอบ สีสันสวยงาม
สำหรับเนื้อหาคัมภีร์ทั้งหมด ๖ ตอน ได้แก่ ตอนที่ ๑ บทสวดอภิธรรม ๗ คัมภีร์ ตอนที่ ๒-๕ เรื่องราวพระมาลัยกลอนสวด เริ่มจากพระมาลัยไปโปรดสัตว์ นรก สวรรค์ สนทนากับพระอินทร์และพบกับ พระโพธิสัตว์ ที่จะมาจุติเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป หรือที่เรียกว่า พระศรีอาริย์ และตอนที่ ๖ บทสวดแจงภาษาบาลี (ขึ้นต้นด้วย ยนฺเตน ภควตา ชานตา ปสฺสตา อรหตา...) แต่งด้วยฉันทลักษณ์ที่เรียกว่า "กลอนสวด”ประกอบด้วยกาพย์ชนิดต่างๆ อาทิ กาพย์ยานี กาพย์ฉบัง กาพย์สุรางคนางค์ ฉันท์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม การนำคัมภีร์พระมาลัยถวายแด่ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เพื่อแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอั นงดงามที่มีมาอย่างยาวนาน ระหว่างพระพุทธศาสนากับคริสตจักรนิกาโรมันคาทอลิกต่อไป
เรียบเรียงโดย: สำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ
ขอบคุณภาพ: วัดโพธิ์ ท่าเตียน